คริสตัลกาลเวลาอวกาศ

คริสตัล (Crystals) คือ ผลึกใสของแร่ (Mineral) เป็นธาตุหรือสารประกอบทางเคมีที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ในแต่ละชนิดอาจมีสีต่างกัน หรือมีสีหลากหลาย ผสมกันสวยงาม โดยความใสของแร่นั้นเกิดจากขบวนการทับถมกดอัด ด้วยความร้อนยาวนานนับล้านปี ใต้พื้นโลกทำให้เกิดการเรียงตัวของอะตอมอย่างเป็นระเบียบ จึงเกิดความใสคล้ายกระจกมองผ่านทะลุได้ และในอีกวิธีการสามารถสร้างขึ้นด้วยฝีมือมนุษย์ สังเคราะห์ขึ้นโดยขบวนความร้อนสูงเช่นกัน มีความใกล้เคียงกันและต้องมีองค์ประกอบที่ถูกต้องคล้ายคลึงในขบวนธรรมชาติ (อ่านบทความ : แร่เทียม)

จากแนวคิด นักฟิสิกส์และผู้ได้รับรางวัลโนเบล

เดิมจากแนวความคิดของ Frank Wilczek นักฟิสิกส์และผู้ได้รับรางวัลโนเบล ค.ศ. 2012 ได้เสนอครั้งแรกในปี ค.ศ. 2016 ในการประดิษฐ์ คริสตัลกาลเวลาอวกาศ (Space-time crystal) ในรูปแบบของวงแหวนหมุนที่หมุนเวียนอย่างต่อเนื่องของประจุไอออน เป็นระบบเปิดโดยให้ผลึกอวกาศเวลา ขยายมิติสมมาตร 3 มิติที่เห็นจากภายนอก ให้รวมมิติที่ 4 ซึ่งเป็นมิติเวลาเข้าไปด้วย ห้วงเวลาของคริสตัลจะเป็นตัวแบ่งความสมมาตรของการแปลเวลา จะช่วยให้คริสตัลอยู่ในการเคลื่อนไหวตลอดกาล ซึ่งมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับแนวคิดเรื่องพลังงานจุดศูนย์และผลแบบไดนามิกในคริสตัล

บริบททฤษฎีห้วงเวลาของคริสตัล

ต่อมานักวิจัยสองทีมจาก Harvard University และ University of Maryland ได้ยืนยันว่า การศึกษาผลึกคริสตัลในเรื่อง Time crystal theories ทฤษฎีห้วงเวลาของคริสตัล (หรือ Space-time crystal) ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Nature โดยทีมของ Harvard ใช้การตั้งค่าทดลองในเพชรสังเคราะห์ที่ประดิษฐ์ขึ้น และก่อนหน้านี้ ทีม Maryland ใช้ประจุอนุภาคที่เรียกว่า Ytterbium ในการทดลองเช่นกัน

การศึกษาทั้งสองถูกพัฒนาต่อในเรื่อง ห้วงเวลาของคริสตัล จาก Princeton University ผลงานค้นพบในเรื่องฟิสิกส์ว่า กาลเวลาในผลึกคริสตัลทำงานอย่างไร จะอธิบายถึงธรรมชาติของโลกในชีวิตประจำวันที่ซับซ้อนจากสิ่งที่สมดุลได้อย่างไรได้จริงหรือ 

ความสมมาตร ของการแปลเวลา

คงเป็นเรื่องเข้าใจยากกับบุคคลทั่วไป ว่าเป็นเช่นนั้น ยกตัวอย่างว่าคล้ายคลึงกันของการบีบฟองน้ำเป็นระยะๆ เมื่อคุณปล่อยฟองน้ำ ฟองน้ำก็จะกลับมาสร้างรูปร่างใหม่แบบเดิม ทุกครั้งคุณจะต้องใช้แรงเหมือนกันทุกครั้งในการบีบ นั่นคือสิ่งที่ระบบของที่เกิดขึ้นในห้วงเวลาของคริสตัล เรียกว่า Symmetry คือ ความสมมาตรของการแปลเวลา (time-translation symmetry)

ในคริสตัลเป็นปรากฏการณ์ควอนตัม ที่มีการเคลื่อนไหวขณะที่เหลือพลังงานต่ำสุด วนกลับมามีพลังงานใหม่อีกครั้ง กล่าวอีกนัยหนึ่งเป็นการเคลื่อนของอนุภาคได้โดยไม่ต้องใช้พลังงาน แต่ไม่สามารถปรับตัวให้สมดุลได้ในสสารได้ เนื่องจากพฤติกรรมควอนตัมในไม่ได้รับผลกระทบจากแรงภายนอก นั้นหมายถึงการปกป้องตนเองได้ อาการคล้ายไม่สิ้นชีพ แต่จะเกิดใหม่ต่อเนื่องไปไม่สิ้นสุด และปราศจากการควบคุมใดๆจากภายนอกได้

ปรากฏการณ์ควอนตัม

เป็นสิ่งที่ตามนุษย์ทั่วไปมองไม่เห็น ในทฤษฎีรากฐานของฟิสิกส์ คือทฤษฎีแม่เหล็กไฟฟ้า (อ่านบทความ : คลื่นสนามแม่เหล็กไฟฟ้าของคริสตัล) ซึ่งใช้อธิบายปรากฏการณ์ในวัตถุที่มีขนาดเล็กกว่าอะตอม นัยคือการปล่อยสเปกตรัมออกมาจากกลไกการทำงานวัตถุนั้น โดยเฉพาะคริสตัลในรูปแบบของการแผ่รังสีแม่เหล็ก อาจมองว่าเรื่องซับซ้อนและลึกลับเกินกว่าจะเป็นจริงได้ ในปัจจุบันกำลังกลายเป็นเรื่องที่ตื่นเต้นมาก จากการพัวพันกันของอนุภาค เป็นปรากฏการณ์ทั่วไปในธรรมชาติที่เกิดขึ้นรอบตัวเรา สามารถเชื่อมโยงถึงกันข้ามมิติของเวลาไปทั่วทั้งจักรวาลเกินกว่าที่จะนึกคิดได้

ติดตามบทความและความรู้ในเฟสบุ๊ค  NOVA Power Crystals Journal